ถมดิน การถมที่หลักการพิจารณามีอะไรบ้าง

การถมที่ถมดิน ถมดิน หมายถึง การนำดินจากแหล่งอื่นมาถม อัดลงไปในที่ดิน ที่เราต้องการ เพื่อทำให้ที่ดินที่มีความแน่นหนาน้อย มีความหนาแน่น พอกับการใช้งาน เช่น การก่อสร้างอาคาร บ้านเรือนต่าง ๆ การถมที่ดินนั้นสำคัญต่อโครงสร้าง ของสิ่งปลูกสร้างมากที่สุด เพราะการมีรากฐานที่ดิน ที่แน่นไม่

เพราะเมื่อตอกเสาเข็ม ของสิ่งปลูกสร้างลงไป เสาเข็มก็จะไม่สามารถ ตั้งตรงอยู่ได้ และอาจจะทำให้ สิ่งปลูกสร้างพังลง หรือว่าพื้นที่ดินไม่มีความสม่ำเสมอกัน ก็อาจจะทำให้ พื้นของสิ่งปลูกสร้างบางส่วน เกิดการทรุดตัวได้ หากดินข้างล่าง มีการทรุดตัวลง เพราะจุดที่สำคัญที่สุด ต่อรากฐานของ สิ่งปลูกสร้าง ก็คือความแข็ง หรือความแน่นของพื้นดิน ซึ่งการถมที่ นั้นจะมีรายละเอียดใน การรับถมที่ดิน ลักษณะต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไป ซึ่งการถมที่ จะต้องมีการคำนวณปริมาณของดิน ที่ใช้ถม และ ต้องคำนวณก่อน ว่าต้องการถมให้มีความสูงเท่าไหร่

ในการพิจารณาว่า ต้องมีการบดอัด หรือมาตราการป้องกันดีแค่ไหน ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องใช้พื้นที่บริเวณนั้นอย่างไร เช่น ถ้าใช้เป็นถนนคอนกรีตจะต้องมีการบดอัด และกำจัดเศษวัชพืชอย่างดี เนื่องจากการทรุดตัวของดินต่างกันเล็กน้อย ก็อาจทำให้ผิวถนน แตกร้าวได้ แต่ถ้าใช้เป็นพื้นที่จัดสวนนั้น เราสามารถปรับระดับดิน ภายหลังจากที่ทิ้งให้ดินยุบตัวไปสักปีสองปีแล้ว

แต่ก็ควรจะบดอัดบ้าง เหมือนกัน ถ้าเราต้องการสวน ที่สวยเรียบในปีแรก ๆ ระวังรั้วเอียงธรรมชาติดินนั้น มันไม่ใช่เพียงอยู่นิ่ง ๆ เท่านั้น แต่มันจะมีแรงดัน ทางด้านข้างด้วย ดินที่ระดับเท่ากัน ต่างคน ต่างดัน กันเองกับเพื่อน ๆ รอบตัวมัน ก็ไม่เป็นไร แต่ดินต่างระดับความสูง ที่ถูกกั้นไว้ด้วยกำแพงรั้วนั้น ดินที่สูงกว่าจะมีแรงดัน มากกว่าผลักออกไป ทางดินที่ต่ำกว่า แรงนี้เองที่กำแพงรั้วจะต้องรับไว้ คุณจึงเอากำแพงรั้ว แบบธรรมดา มาใช้เป็นกันดินที่ต่างระดับมาก ๆ ไม่ได้ โครงสร้างกำแพงรั้ว ต้องออกแบบ ให้รับแรงดันดิน ได้โดยไม่เอียง ถมดินอย่างไร ไม่ให้โดนโก่งราคา การถมที่ หลักการพิจารณา มีอะไรบ้าง บริษัท เอส.ที.บี.ที. คอนสตรั่คชั่น แอนด์ ซัพพลาย จำกัด มีคำตอบ

1.ประวัติของพื้นที่ ที่จะถมดินเคยเกิดน้ำท่วม หรือไม่ และพิจารณาจากระดับน้ำที่สูงสุดที่น้ำเคยท่วมถึง

2.ก่อนการถมที่ดิน ให้เช็คระดับน้ำในท่อระบายน้ำสาธารณะก่อน โดยติดต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และถมดินให้สูงกว่าระดับดังกล่าว เพื่อไม่ให้น้ำในบ้านระบายออกได้

3.ระดับที่ดินโดยรอบ โดยทั่วไปมักถมให้สูงกว่า ถนนหน้าบ้านประมาณ 50-80 ซม. โดยให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียง กับระดับเดียวกับเพื่อนบ้าน

4.ไม่ควรถมดินสูงเกินไป เพราะเนื่องจาก
– พื้นที่ลาดที่เชื่อมต่อระหว่างที่ดิน ของบ้านกับถนนสาธารณะ จะมีความลาดชันมาก
– เกิดปัญหาน้ำไหลท่วมเข้าบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน
– ดินถมที่ระดับสูงกว่า 80-100 ซม. อาจเกิดแรงดันจนรั้วเสียหายได้ (หากจำเป็นต้องทำควรปรึกษาวิศวกร)

5.กรณีที่ท่านต้องการถมดิน ให้ระดับพื้นบ้านชั้นล่างอยู่สูง อาจใช้วิธียกใต้ถุนสูงแทนการถมดิน จะทำให้ได้พื้นที่ใช้งานเพิ่มอีกด้วย

6.การถมดินเพื่อยกระดับดิน ที่ไม่สูงมาก สามารถทำโดยทำครีบกันดินให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงค่อยถมดินในภายหลัง โดยสามารถนำดินที่ได้จากการเจาะเสาเข็มมาถมได้อีกด้วย

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องเมื่อต้องถมดิน
การถมดิน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับก่อสร้าง มีปัจจัยหลายส่วน เข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้เกิดการทรุดตัว จากการสร้างสิ่งก่อสร้างกดทับ โดยปัจจัยที่เกี่ยวข้อง และควรตำนึงถึงก่อการถมดิน ประกอบไปด้วย

ลักษณะพื้นที่ที่จะถมดินเป็นอย่างไร
เบื้องต้นผู้รับเหมา ควรตรวจสอบลักษณะของพื้นที่ดังกล่าวก่อน เพื่อให้รู้ว่าจะต้องมีการถมดินสูงแค่ไหน ควรสอบถามผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ว่ามีปัญหาเรื่องน้ำท่วม หรือไม่ ใช้เวลาระบายน้ำนานแค่ไหน เพราะปัญหาดังกล่าวจะส่งผลให้ดิน เกิดการอ่อนตัวง่าย จะต้องถมแล้วอัดให้แน่นกว่าปกติ ใช้เวลานานขึ้น อีกวิธีที่จะช่วยสังเกตพื้นที่ เพื่อการถมดินได้ คือการสังเกตต้นไม้ ที่ขึ้นบนดินแปลงนั้น หากมีต้นกก ต้นอ้อ หรือธูปฤๅษี แสดงว่าพื้นที่ บริเวณนั้นมีความชื้นแฉะสูง ดินตรงนั้นจะมีความอ่อนตัว แต่ถ้าหากมีต้นกระถิน หรือมะขามเทศ แสดงว่าดินบริเวณนั้นมีความแห้ง

ระดับความสูงของพื้นที่ที่จะถมดิน
เรื่องระดับความสูงของพื้นที่ ที่ต้องการนั้น ต้องประเมินสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ปกติน้ำท่วมถึงระดับไหน พื้นถนนเทียบกับพื้นที่ของตนเอง เทียบความสูงของที่บ้านหลังอื่น และที่ดินที่เป็นแปลงเปล่า มองเผื่ออนาคตด้วย ว่าหากมีการก่อสร้างอื่น เพิ่มขึ้น พื้นที่ต่าง ๆ รอบด้านจะต้องถูกถม ให้สูงขึ้นด้วย ดังนั้น การประเมินสภาพแวดล้อม ดังกล่าว จะช่วยให้รู้ได้ว่าต้องถมดินสูงแค่ไหนความสูง ของการถมดินโดยทั่วไปแล้ว จะถมสูงกว่าถนน 50-80 ซ.ม. แต่สำหรับบางพื้นที่ หากประเมินแล้ว ว่าต้องเผื่อการยุบตัวไว้ ก็อาจถมดินให้สูงกว่า 1 เมตร

ควรทิ้งพื้นที่หลังถมดินไว้นานแค่ไหน
อีกหนึ่งข้อสงสัย คือ เรื่องการทิ้งระยะเวลา รอดินเซตตัว หลังถมดิน โดยปกติเมื่อถมดิน เสร็จหากไม่จำเป็นจริง ๆ ไม่ควรเริ่มก่อสร้างทันที ควรทิ้งระยะเวลาให้ดินเซตตัวก่อน ยิ่งถมสูงยิ่งมีโอกาสทรุดตัว บางที่จะทิ้งระยะเวลาไว้ กว่าา 6-12 เดือน แต่ก็สามารถร่นระยะเวลาได้ โดยการใช้รถบดอัดดินช่วย หรือทำทั้งสองอย่าง คือทั้งใช้รถบดอัดดิน และทิ้งระยะเวลารอดินเซตตัว ยิ่งจะทำให้การปรับหน้าดินก่อสร้างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของการ ถมดิน

ป้องกันปัญหาเรื่องน้ำท่วม และน้ำจากบริเวณโดยรอบเข้าสู่พื้นที่ของเราได้โดยง่ายทำให้การยกระดับของถนน หรือที่ดินข้างเคียงในอนาคตไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่บ้านมากทำให้บ้านดูโดดเด่น

สรุปข้อควรพิจารณาในการ ถมดิน

บริษัท เอส.ที.บี.ที. คอนสตรั่คชั่น แอนด์ ซัพพลาย จำกัด ขอแนะนำให้ท่านทราบว่าก่อนการถมดิน ควรมีการเอาเศษขยะ เศษใบไม้ ต้นไม้ หรือน้ำที่ขัง ออกจากพื้นที่ให้หมด เนื่องจากเป็นอุปสรรคในการบดอัดดินให้แน่น ดินที่ใช้ถม ควรเป็นดินที่แห้ง โดยดินที่มาจากการเจาะเสาเข็ม แล้วเอาดินมาทิ้ง ซึ่งจะเป็นดินเลน ไม่เหมาะกับ การนำมาถมที่ เพราะเมื่อปล่อยให้ดินยุบตัวลง จะเกิดการทรุดตัวมาก (ถ้าจะใช้ต้องตากดินให้แห้ง เป็นเวลานานก่อน) ทุกระยะ ที่ถมดิน 50 เซนติเมตร ต้องบดอัดหน้าดิน ให้แน่นด้วยรถบด แล้วจึงถมดิน ในชั้นต่อไป ใช้ทรายถมดิน ในบริเวณที่เป็นหลุม หรือบ่อ เพราะทรายละเอียด สามารถแทรก ในช่องว่างต่าง ๆ ได้ง่าย การถมที่ดิน บริเวณถนน อาจใช้ดินลูกรังถมพร้อมกับ การบดอัดที่ผิวหน้า ที่ระดับประมาณ 30 ถึง 50 เซนติเมตร เพราะ จะมีการทรุดตัวน้อย แต่ข้อเสีย คือ ดินลูกรังปลูกต้นไม้ ได้ยาก การถมที่ในบริเวณ จัดสวน หรือปลูกต้นไม้ ควรถมด้วยหน้าดิน เนื่องจากมีคุณสมบัติ เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืช ช่วงเวลาในการถมดิน ไม่ควรถมดินในฤดูฝน เพราะ ทำการบดอัดดินให้แน่นได้ลำบาก

สนใจ ถมที่ดินกับเรา







Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top